Preview ฟุตบอลโลก 2018 กลุ่ม B

 โปรตุเกส

• FIFA World Rankings : 4
• เข้าร่วมฟุตบอลโลก : 6 ครั้ง – 1966, 1986, 2002, 2006, 2010, 2014
• ผลงานดีที่สุด : อันดับที่ 3 – 1966
• กัปตันทีม : คริสเตียโน โรนัลโด้ (เรอัล มาดริด)
• ดาวเด่น : คริสเตียโน โรนัลโด้ (เรอัล มาดริด)

โปรตุเกส แสดงให้เห็นถึงระเบียบวินัยในเกมรับและการเล่นที่ยืดหยุ่นในเกมเอาชนะฝรั่งเศสในนัดชิงชนะเลิศศึก ยูโร 2016 แม้จะไม่มีสตาร์สำคัญอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ ที่ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่ต้นเกม แต่อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าพวกเขาก็ยังคงต้องฝากความหวังไว้ที่ดาวยิงตัวเก่งจากเรอัล มาดริด รายนี้อยู่ดี หลังจากกองหน้ารายนี้ ทำประตูให้กับทัพฝอยทองไปถึง 15 จาก 32 ประตูในรอบคัดเลือกช่วยทีมผ่านเข้ามาเล่นฟุตบอลโลก 2018 โดยอัตโนมัติ แต่บรรดาดาวรุ่งความหวังใหม่ของทีมยังคงมีปัญหาเรื่องการลงสนามที่ไม่ค่อยต่อเนื่องกับสโมสร และรวมไปถึงการอยู่ร่วมสายเดียวกับทีมแกร่งอย่างสเปน นั่นหมายความว่าอาจเหลือที่ว่างในการเข้ารอบอีกแค่ทีมเดียว แต่ทีมของ เฟร์นันโด ซานโต๊ส เคยทำให้เห็นแล้วในเกมกับฝรั่งเศส ในศึกยูโรเมื่อสองปีที่แล้ว ว่าพวกเขาพร้อมสร้างเซอร์ไพรส์ได้เสมอ และการที่มี โรนัลโด้ อยู่ในทีมอะไรก็เกิดขึ้นได้

• โปรแกรมแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม
  • 15 มิ.ย. พบ สเปน
  • 20 มิ.ย. พบ โมร็อคโก
  • 25 มิ.ย. พบ อิหร่าน

---

 สเปน

• FIFA World Rankings : 8
• เข้าร่วมฟุตบอลโลก : 14 ครั้ง – 1934, 1950, 1962, 1966, 1978, 1982, 1986, 1990, 1994, 1998, 2002, 2006, 2010, 2014
• ผลงานดีที่สุด : ชนะเลิศ – 2010
• กัปตันทีม : เซร์คิโอ รามอส (เรอัล มาดริด)
• ดาวเด่น : เซร์คิโอ รามอส (เรอัล มาดริด)

“กระทิงดุ” มีผลงานน่าผิดหวังในทัวร์นาเม้นท์ระดับชาติสองครั้งหลังสุด แต่ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียพวกเขายังคงเป็นหนึ่งในทีมเต็งแชมป์เช่นเคย ซึ่งว่ากันตามจริงภายใต้การคุมทีมของโค้ชคนใหม่อย่าง ฆูเลน โลเปเตกี พวกเขายังไม่เคยแพ้ให้กับทีมใดเลย รวมไปถึงเกมรับของพลพรรคกระทิงดุ ที่ดีจนเกือบจะไร้ที่ติด้วยการมีผู้รักษาประตูที่ฟอร์มเหนียวหนึบอย่าง ดาบิด เด เคอา และปราการหลังกัปตันทีมจอมเก๋าอย่าง เซร์คิโอ รามอส นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยกองกลางชั้นยอดนำทัพโดย อิสโก้ ผู้ถูกวางบทบาทให้เป็นแกนหลักในแนวรุก สิ่งเดียวที่ยังน่ากังวลคือในตำแหน่งกองหน้าเมื่อทั้ง อัลบาโร โมราต้า และ ดิเอโก้ คอสต้า ยังไม่อยู่ในฟอร์มที่ดีนักกับสโมสร แต่เมื่อดูการอุ่นเครื่องที่เอาชนะ อาร์เจนตินา 6-1 เมื่อเดือนมีนาคม พวกเขาอาจไม่ต้องพึ่งพากองหน้ามากก็ได้

• โปรแกรมแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม
  • 15 มิ.ย. พบ โปรตุเกส
  • 20 มิ.ย. พบ อิหร่าน
  • 25 มิ.ย. พบ โมร็อคโก

---

 โมร็อกโก

• FIFA World Rankings : 42
• เข้าร่วมฟุตบอลโลก : 4 ครั้ง – 1970, 1986, 1994, 1998
• ผลงานดีที่สุด : รอบ 16 ทีมสุดท้าย – 1986
• กัปตันทีม: เมห์ดี้ เบนาเตีย (ยูเวนตุส)
• ดาวเด่น: ฮาคิม ซิเยช (อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม)

โมร็อกโก กลับมาสู่ฟุตบอลโลกอีกครั้งหลังจากห่างหายไป 20 ปี คู่แข่งร่วมกลุ่มอาจดูมีชื่อชั้นที่เหนือกว่าแต่ยอดทีมแห่งแอฟริกาก็มีดีพอที่จะสร้างปัญหาให้ทุกทีมโดยเฉพาะแนวรับที่แข็งแกร่งนำทัพมาโดย เมห์ดี้ เบนาเตีย กองหลังจาก ยูเวนตุส การันตีด้วยการไม่เสียแม้แต่ประตูเดียวในรอบคัดเลือกโซนแอฟริกาทั้งที่อยู่ร่วมกลุ่มกับทีมเต็งระดับทวีปอย่าง ไอวอรี่โคสต์, กาบอง และ มาลี ขณะที่แดนหน้ามี อายูบ เอล คาบี ผู้ทำไปถึง 10 ประตูจากการลงสนาม 8 นัด เป็นตัวชูโรง แต่ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้พวกเขาทำผลงานได้ดีอยู่ที่ฟอร์มการเล่นของ ฮาคิม ซิเยช เพลย์เมคเกอร์ตัวเก่งจาก อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม ถ้าทุกอย่างลงตัวและมีโชคทีมสิงโตแอตลาสก็อาจย้อนรอยความสำเร็จที่เคยผ่านเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายเมื่อปี 1986 ก็เป็นได้

• โปรแกรมแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม
  • 15 มิ.ย. พบ อิหร่าน
  • 20 มิ.ย. พบ โปรตุเกส
  • 25 มิ.ย. พบ สเปน

---

 อิหร่าน

• FIFA World Rankings : 36
• เข้าร่วมฟุตบอลโลก : 4 ครั้ง – 1978, 1998, 2006, 2014
• ผลงานดีที่สุด : รอบแบ่งกลุ่ม
• กัปตันทีม: อัชกาน เดยากาห์
• ดาวเด่น: ซาร์ดาร์ อัซมูน

ทีมแรกของเอเชียที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2018 ความสำเร็จของอิหร่านส่วนสำคัญต้องยกให้ความแข็งแกร่งในแนวรับ ซึ่งพวกเขามีโค้ชที่ขึ้นชื่อเรื่องการเล่นเกมรับอย่าง คาร์ลอส เกย์รอซ อดีตผู้ช่วยของ “เฟอร์กี้” เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยพวกเขาเก็บคลีนชีตได้ถึง 9 นัด แต่ก็มาเสีย 2 ประตู ในเกมนัดสุดท้าย ที่เปิดบ้านเสมอทีมชาติซีเรีย 2-2

อิหร่าน ไม่เคยขาดแคลนแนวรุกพรสวรรค์ เช่น ซาร์ดาร์ อัซมูน จาก “รูบิน คาซาน” และ เมห์ดี้ ตาเรมี จาก “อัล-การ์ราฟา” ที่ช่วยกันทำไปได้ถึง 19 ประตูในรอบคัดเลือก ขณะที่ปีกอย่าง อาลิเรซา จาฮานบาส์ก ดาวซัลโวแห่งศึกเอเรดิวิซี่ เนเธอร์แลนด์ จาก “อาแซด อัลค์มาร์” ก็กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม โดยเกมนัดแรกกับ โมร็อคโค ถือว่าสำคัญมาก หากพวกเขาเก็บชัยชนะได้ ก็อาจจะมีลุ้นที่จะเข้ารอบน็อคเอาท์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ

• โปรแกรมแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม
  • 15 มิ.ย. พบ โมร็อคโก
  • 20 มิ.ย. พบ สเปน
  • 25 มิ.ย. พบ โปรตุเกส

---

ฟันธง 2 ทีมเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย : สเปน , โปรตุเกส