LINE : @88service
เกมพรีเมียร์ลีกนัดที่ 18 คู่บิ๊กแมตช์ แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเกมนี้ถือเป็นการพบกันนัดที่ 189 ที่ผ่านมา 188 นัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ 77 ครั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ 58 ครั้ง และจบด้วยผลเสมอ 53 นัด
การพบกันในพรีเมียร์ลีก 51 นัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ 24 นัด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ 18 นัดลงเอยด้วยการเสมอกัน 9 นัด
เอริก เทนฺ ฮาก พาทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 6 นัดติดต่อกัน เกมนี้ ใช้ ลุค ชอว์ ยืนเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ โดยมี เฟร็ด กับ กาเซมิโร่ ดูโอทีมชาติบราซิลเล่นร่วมกันตรงกลาง และมี มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่กำลังฟอร์มแรงเล่นในเกมรุก
ทางฝั่ง เป๊ป กวาดิโอล่า เกมลีกล่าสุด บุกไปเฉือนชนะ เชลซี 1-0 เกมนี้ในแนวรุก เกมนี้ ไคล์ วอล์คเกอร์ จะถ่างกลับมาเล่นแบ๊กขวาตามเดิม หลังเกมแพ้ “นักบุญ” ถุูกจับไปเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ โรดรี้ กับ เควิน เดอ บรอยน์ กลับมาสตาร์ตแดนกลางเช่นกัน หลังได้พักเมื่อกลางสัปดาห์ เกมรุก เออร์ลิง ฮาลันด์ ที่เวลานี้ทำไป 21 ประตูสูงสุดใน 5 ลีกยุโรป ฤดูกาลนี้ ประสานงานกับ ริยาด มาห์เรซ และ ฟิล โฟเด้น
เกมช่วง 20 นาทีแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ครองบอลได้มากกว่า ส่วน แมนฯ ซิตี้ พยามหาจังหวะสวนกลับ
จากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบได้ประตูจากจังหวะที่ เอแดร์ซอนพลาด แต่ มานูเอล อคานจี ยังช่วยเคลียร์ทิ้งช่วยซิตี้ เอาไว้ได้
ช่วงทดเจ็บนาที 45+1 ไคล์ วอล์คเกอร์ ได้ลองส่องไกล บอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียว ซิตี้ พลาดโอกาสขึ้นนำ จบครึ่งแรกยังเสมอ 0-0
กลับมาครึ่งหลัง เกมยังไม่ต่างจากครึ่งแรก นาทีที่ 57 เป๊ป กวาดิโอล่า ตัดสินใจถอด ฟิล โฟเด้น ออกและส่ง แจ็ค กรีลิช ลงไปแทน
นาทีที่ 60 แจ็ค กรีลิช ที่ลงมาได้เพียง 3 นาที มาส่งให้ แมนฯ ซิตี้ บุกนำ 1-0 จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ ได้บอลจากทางสุดเส้นก่อนจะเปิดไปให้กองหน้าทีมชาติอังกฤษ โหม่งเข้าไปและถือเป็นประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้
หลังตกเป็นฝ่ายตามหลัง เจ้าถิ่น พยายามลุยกดดันหวังทวงประตูคืนแต่ผ่าน 75 นาทีก็ยังไม่สามารถกลับสู่เกมได้
นาทีที่ 78 บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยิงเข้าไป แม้ผู้ช่วยผู้ตัดสินจะมองว่าเป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่พยายามประคองบอลก่อนหน้านี้และล่้ำหน้า แต่ทว่า VAR กับให้ลูกนี้เป็นประตู แมนฯ ยูไนเต็ต กลับสู่เกมตีเสมอ 1-1 และเป็นประตูที่ 4 ของบรูโน่ ในฤดูกาลนี้
จากนั้นนาทีที่ 82 แมนฯ ยูไนเต็ด มาแซงขึ้นนำ 2-1 เป็นจังหวะที่ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ตัวสำรองเปิดจากทางซ้ายเข้ามาให้ แรชฟอร์ด ชาร์จจ่อๆ ด้วยขวาเข้าไป และถือเป็นการยิง 7 นัดติดต่อกันของ แรชฟอร์ด หลังจากกลับมาจากบอลโลก
ช่วง 5 นาทีสุดท้าย “เรือใบสีฟ้า” เน้นเพื่อหวังเอาประตูคืนและมีแต้มกลับไป แต่ทำไม่สำเร็จจบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด พลิกกลับมาชนะ 2-1 ทำให้เวลานี้มี 38 คะแนน ตามหลัง แมนฯ ซิตี้ ที่เป็นรองจ่าฝูงเพียงแค่แต้มเดียว พร้อมกลับมามีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้
รายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1): ดาบิด เด เคอา; อารอน วาน-บิสซาก้า, ราฟาแอล วาราน, ลุค ชอว์, ไทเรลล์ มาลาเซีย; เฟร็ด, กาเซมิโร่ ; บรูโน่ แฟร์นันด์ส, คริสเตียน เอริคเซ่น, มาร์คัส แรชฟอร์ด; อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน; ไคล์ วอล์คเกอร์,มานูเอล อคานจี , นาธาน อาเก้, ชูเอา กานเซโล่; โรดรี้, เควิน เดอ บรอยน์, แบร์นาโด ซิลวา; ริยาด มาห์เรซ, เออร์ลิง ฮาลันด์, ฟิล โฟเด้น
